คาดการณ์ น้องสาว คิมจองอึน อาจขึ้นแท่นท่านผู้นำคนต่อไป

คาดการณ์ น้องสาว คิมจองอึน อาจขึ้นแท่นท่านผู้นำคนต่อไป

จากกรณีที่มีข่าวลือจากข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐ (CIA) ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนืออยู่ในอาการน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดระบบหลอดเลือดหัวใจ และต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ข่าวนี้ก็ทำให้หลายคนต่างก็ออกมาวิเคราะห์แนวทางในการบริหารประเทศ รวมถึงผู้ที่อาจจะมาสืบทอดตำแหน่งต่อไป’

โดยมีการคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเป็นน้องสาวของเขาคือ คิมโยจอง 

ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดูจะเป็นไปได้มากที่สุด โดยมักจะพบว่าเธอปรากฏตัวเคียงข้างคิมจองอึนและออกงานใหญ่แทนพี่ชายหลายครั้ง เธอมีอายุ 30-32 ปี (ไม่ทราบอายุแน่ชัด) คิมโยจองกับคิมจองอึนค่อนข้างสนิทกัน เพราะถูกส่งตัวไปศึกษาในกรุงเบิร์นของสวิตเซอร์แลนด์พร้อมๆ กับพี่ชายระหว่างปี 1996-2000 โดยใช้ชื่อปลอม ก่อนจะกลับมาศึกษาต่อที่ ม.คิมอิลซุง ในบ้านเกิด

คิมโยจองปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกในพิธีศพของคิมจองอิล เมื่อปี 2011 จากนั้นก็ได้ออกงานคู่กับคิมจองอึนเป็นครั้งคราว  หลังจากนั้นคิมโยจองก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยกรมการคณะกรรมการกลางแห่งพรรคแรงงาน เมื่อปี 2014 โดยเธอยังรับหน้าที่ดูแลประเทศในช่วงที่คิมจองอึนพักรักษาตัวจากโรคเกาต์และเบาหวานในช่วงปลายปีเดียวกัน

ในปี 2017 เธอได้รับการเลื่อนขั้นเป็นสมาชิกวิสามัญของคณะกรรมการกรมการเมือง ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับสูงในพรรคคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ ทั้งยังทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการสร้างภาพลักษณ์ให้พี่ชายเป็นที่รักของประชาชน รวมไปถึงคอยติดตามคิมจองอึนออกตรวจตรางานตามพื้นที่ต่างๆ

ต่อมาในปี 2018 คิมโยจองได้รับความสนใจและจับตามองจากชาวโลก โดยเฉพาะสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเธอปรากฏตัวอย่างคาดไม่ถึงในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. และถือเป็นสมาชิกตระกูลคิมที่เยือนเกาหลีใต้คนแรกในรอบ 65 ปีนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลี ในปีเดียวกัน คิมโยจองยังเข้าร่วมการประชุมสุดยอดการปลดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างคิมจองอึนกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ และการประชุมเรื่องเดียวกันในปี 2019 ที่กรุงฮานอยของเวียดนาม

ล่าสุดเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เธอได้ออกแถลงการณ์ในนามของตัวเองเป็นครั้งแรก ตำหนิการกระทำของทางการเกาหลีใต้ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นไปได้ว่าทายาทของคิมจองอึน อาจจะได้สืบทอดตำแหน่งแทน โดยหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้เผยว่าคิมจองอึนมีทายาทกับรีซอลจู 3 คน แต่ไม่ทราบข้อมูลใดๆ

ลือ! ซีไอเอเผย คิมจองอึน อาการหนักหลังผ่าตัด

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานโดยอ้างข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐ (CIA) ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนืออยู่ในอาการน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดระบบหลอดเลือดหัวใจ และต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา คิมจองอึน ไม่ได้เข้าร่วมพิธีฉลองเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของนายคิม อิลซอง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นปู่ของตัวเอง ตามปกติแล้วถือเป็นพิธีที่สำคัญมาก

Daily NK สื่อออนไลน์ในเกาหลีใต้ ระบุว่าคิมจองอึนเข้ารับการผ่าตัดระบบหลอดเลือดหัวใจเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา เพราะหัวใจทำงานหนักจากการสูบบุหรี่จัดและโรคอ้วน และขณะนี้เข้ารับการรักษาที่วิลลาแห่งหนึ่งใน อ.ฮยังซัน จ.พยองอันเหนือ ตอนกลางของประเทศ และดูเหมือนว่าอาการของคิมจองอึนดีขึ้นเรื่อยๆ จนทีมแพทย์ส่วนใหญ่เดินทางกลับไปยังกรุงเปียงยางเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมีแพทย์เพียงไม่กี่คนที่เฝ้าดูอาการ

รายงานจากซีไอเอ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ มีข่าวออกมามากมายเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของคิมจองอึน ทั้งเรื่องสูบบุหรี่ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง แต่ข่าวหลายข่าวก็ไม่เป็นความจริง ราคาน้ำมันดิบ ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในสหรัฐฯ ร่วงหนักเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากอุปสงค์ที่หดหาย ตามการคาดการณ์ว่าสภาพเศรษฐกิจโลกจะอ่อนตัวหนัก

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานในวันจันทร์ว่า ความต้องการน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงอย่างหนัก หลังผู้คนกว่าพันล้านคนต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานล้นตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประจำเดือนพฤษภาคมปิดการซื้อขายในวันจันทร์ที่ ติดลบ 37.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ ติดลบ 40.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 9 เปอร์เซ็นต์ มาที่ 25.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบของสัญญาเวสต์เท็กซัสประจำเดือนมิถุนายนยังคงอยู่ในระดับที่ดีกว่ามาก คือ 20.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รายงานข่าวระบุว่า นักลงทุนตัดสินใจเทขายสัญญาเดือนพฤษภาคมซึ่งหมดอายุลงในวันจันทร์ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันดิบที่หดตัวหนัก โดยปกติ ก่อนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะหมดอายุลง ผู้ค้าต้องตัดสินใจว่าจะยังซื้อน้ำมันจริง หรือเลื่อนสถานะไปเป็นสัญญาของเดือนถัดไปแทน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป